MSN Messenger เอ็มเอสเอ็นเมสเซนเจอร์
พี่ผึ้งเชื่อแน่ว่า น้องๆชาวเด็กดีแทบทุกคนจะต้องรู้จัก MSN Messenger กันเป็นอย่างดี และหลายคนเป็นแฟนพันธุ์แท้ชาวเอ็มเอสเอ็น เรียกว่าเข้าอินเตอร์เน็ตเมื่อไรเป็นต้อง Sign in เข้าระบบออนไลน์ เมาท์กระจายกับเพื่อนทุกครั้ง แบบว่าขาดเอ็มเหมือนขาดใจ เป็นปัจจัยอย่างที่ 5 ที่จะขาดเสียไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นจะมีสักกี่คนเชียวที่จะรู้ประวัติ การเริ่มมี MSN ขึ้นในประเทศไทย เกริ่นนำกันซะขนาดนี้แล้ว อย่ารอช้าตามมาดูกันเลย
เอ็มเอสเอ็นเมสเซนเจอร์ (MSN Messenger) เป็นโปรแกรมเมสเซนเจอร์ จากบริษัทไมโครซอฟท์ และเป็นเมสเซนเจอร์ที่นิยมใช้มากที่สุดในประเทศไทย (ปรบมือ) ซึ่งมักถูกเรียกสั้นๆว่า "เอ็มเอสเอ็น "หรือ "เอ็ม" เอ็มเอสเอ็นเมสเซนเจอร์มักถูกเข้าใจว่าเป็นบริการดอตเน็ตเมสเซนเจอร์ (.NET Messenger Service - โปรโตคอลและเซิร์ฟเวอร์ที่อนุญาตให้ระบบจัดการได้) มากกว่าจะเป็นเพียงตัวไคลเอนต์. ไคลเอนต์อีกตัวหนึ่งที่สามารถเข้าใช้บริการดอตเน็ตเมสเซนเจอร์ได้เช่นกัน ก็คือ วินโดวส์เมสเซนเจอร์ (Windows Messenger) เครื่องคอมพิวเตอร์ใดๆที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ใช้วินโดวส์เอกซ์พี และติดตั้งอินเทอร์เน็ตเอกซ์พลอเรอร์ จะสามารถใช้บริการเมสเซนเจอร์ผ่านเว็บที่ชื่อว่า เอ็มเอสเอ็น เว็บเมสเซนเจอร์ (MSN Web Messenger) ได้. เอ็มเอสเอ็นเมสเซนเจอร์ 7.5 เป็นเวอร์ชันล่าสุดที่ไมโครซอฟท์ปล่อยออกมา ในปีพ.ศ. 2549
เอ็มเอสเอ็นเมสเซนเจอร์ 7.5
ต่อมา เอ็มเอสเอ็นเมสเซนเจอร์ ได้เปลี่ยนชื่อเป็น วินโดวส์ไลฟ์เมสเซนเจอร์ (Windows Live Messenger หรือ WLM) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชุดบริการออนไลน์ และซอฟต์แวร์ ของ Microsoft's Windows Live
โดยรุ่นเสถียรล่าสุด คือ 8.1.0178 ซึ่งออกเมื่อวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2550 เป็นรุ่นที่รองรับทั้งหมด 34 ภาษา และเป็นรุ่นแรกที่รองรับการแสดงผลภาษาไทย ซึ่งประเทศไทยมีผู้ใช้ วินโดวส์ไลฟ์ เมสเซนเจอร์อยู่ประมาณตั้ง 2.5 ล้านคน โดยส่งข้อความโดยเฉลี่ย 70 ล้านข้อความต่อวัน หรือประมาณ 2.2 พันล้านข้อความต่อเดือนทีเดียว
วินโดวส์ไลฟ์เมสเซนเจอร์ 8.1
เอ็มเอสเอ็นเมสเซนเจอร์ เมื่อถูกปล่อยออกมาเป็นครั้งแรก มันมีคุณสมบัติสามารถเข้าไปใช้บริการเครือข่าย AIM ของอเมริกาออนไลน์ได้ แต่ทางอเมริกาออนไลน์ก็ได้พยายามกีดกันไม่ให้ไมโครซอฟท์เข้ามาใช้บริการของตน จนกระทั่งคุณสมบัตินี้ถูกยกเลิกออกไป และไม่มีการนำกลับมาใช้อีก ปัจจุบัน เอ็มเอสเอ็นเมสเซนเจอร์ อนุญาตให้ผู้ใช้เชื่อมต่อไปยังบริการดอตเน็ตเมสเซนเจอร์ได้เท่านั้น โดยผู้ใช้จะต้องมีอีเมลที่มีระบบพาสปอร์ต (Passport) ของไมโครซอฟท์เท่านั้น
www.dek-d.com ประโยชน์หลักของโปรแกรมนี้อย่างที่รู้กันอยู่ก็คือ เป็นโปรแกรมสำหรับสนทนาจ๊ะ แม้ว่าจะมีคุณสมบัติอื่นๆ อีก เช่น การสนทนาผ่านเสียง , เว็บแคม (เอ็มเอสเอ็นเมสเซนเจอร์ รุ่น 7.0 และรุ่นหลังๆ สนับสนุนการสนทนาผ่านเสียงและภาพแบบเต็มจอ) การแลกเปลี่ยนไฟล์ และสามารถเล่นเกมออนไลน์ เช่น เกมทิค-แทค-โท ในโปรแกรมได้ นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถเพิ่มสีสันให้ข้อความด้วยการใช้ อีโมติคอน , แฟลชแอนิเมชัน ที่เรียกว่า winks, ภาพแสดงแบบเคลื่อนไหว, การเปลี่ยนรูปแบบข้อความ และลงโปรแกรมเสริมต่างๆ เช่น โปรแกรมMessenger Plus! เป็นต้น
และในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2547 ไมโครซอฟท์ได้เปิดบริการ "เว็บเมสเซนเจอร์" ซึ่งทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ใดๆที่มีโปรแกรมเบราว์เซอร์และต่ออินเทอร์เน็ตได้ สามารถเข้ามาใช้บริการเอ็มเอสเอ็นเมสเซนเจอร์ผ่านเว็บเบราว์เซอร์ได้ โดยไม่ต้องลงโปรแกรมไว้ในเครื่องก่อน แต่บริการนี้อนุญาตให้ผู้ใช้สนทนากันได้เท่านั้น
www.dek-d.com โอ้โห อะไรมันจะทำได้ขนาดนี้ เรียกว่าพัฒนากันอย่างไม่หยุดนิ่ง เพื่อให้ MSNทำอะไรได้ทั้งหลายอย่าง ช่วยย่อโลกใบใหญ่ๆของเราให้เหลือเล็กนิดเดียว คนอยู่ต่างทวีปก็สามารถเห็นหน้ากันได้ โดยไม่ต้องเสียค่าตั๋วเครื่องบินบินไปหากันให้ยุ่งยาก ส่งไฟล์ข้อมูลงานได้ทันที หรือติดต่องานทาง MSNก็ได้ อะไรๆดูง่ายไปเสียหมด สะดวกขึ้นจากแต่ก่อนเยอะเลย อย่างนี้พี่ผึ้งชอบมากๆกะ
หลังอ่านจบน้องๆรู้สึกอย่างไรกันบ้าง อยากให้ปรับปรุงอะไร หรืออยากจะให้ MSN ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ทำอะไรได้เพิ่มอีก มาแสดงความเห็นกันได้ในตอนท้ายนะจ๊ะ หรือจะเข้ามาทักทายกันเฉยๆก็ได้จ๊ะ ยังไงพี่ผึ้งจะรออ่านนะจ๊ะ ใครมีไอเดียเจ๋งๆเสนอกันมาได้เลย เกิดผู้ผลิตเขาเห็นว่าดีจะนำไปใช้จ๊ะ
www.dek-d.com ขอขอบคุณข้อมูลจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
http://th.wikipedia.org/และเว็บ
http://www.dek-d.com
Sat Jun 09, 2007 8:10 am
